แชร์

กลไกทางสรีรวิทยาและฟิสิกส์ของการคายน้ำ (Transpiration)

อัพเดทล่าสุด: 10 ต.ค. 2025
10 ผู้เข้าชม

กระบวนการคายน้ำ (Transpiration) ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของพืช ซึ่งมีผลต่อทั้ง สรีรวิทยา การลำเลียงน้ำ และการรักษาอุณหภูมิ ของพืชอย่างเป็นระบบ แม้จะดูเหมือนเป็นเพียงการสูญเสียน้ำสู่บรรยากาศ แต่แท้จริงแล้ว การคายน้ำเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงตั้งแต่ระดับ เซลล์พืช อวัยวะ ระบบลำเลียง สภาพแวดล้อมภายนอกอย่างซับซ้อน และเป็นหัวใจที่ทำให้วงจรชีวิตพืชดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง


กลไกทางสรีรวิทยาและฟิสิกส์ของการคายน้ำ (Transpiration)
การคายน้ำเริ่มต้นจาก "รากดูดน้ำจากดิน" เข้าสู่เซลล์คอร์เทกซ์ ผ่านการแพร่และออสโมซิส จนน้ำเข้าสู่ "ท่อลำเลียงไซเลม (xylem)" จากนั้นเคลื่อนขึ้นสู่ลำต้นและใบด้วยแรงหลายชนิด เช่น
1. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้ำ (Cohesion)
2. แรงยึดติดกับผนังท่อไซเลม (Adhesion)
3. แรงตึงผิวของน้ำ (Surface tension)


กระบวนการทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันในรูปแบบที่เรียกว่า "ทฤษฎีความตึงร่วม (CohesionTension Theory)" ซึ่งอธิบายว่าเมื่อไอน้ำระเหยออกจากช่องว่างอากาศในใบ จะเกิดแรงดึง (transpiration pull) ส่งผลให้น้ำจากไซเลมถูกดึงขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง


ภายในใบ พลังงานจากแสงอาทิตย์ทำให้น้ำในช่องระหว่างเซลล์ระเหยกลายเป็นไอ น้ำจึงเคลื่อนจากบริเวณที่มีศักย์น้ำสูง (เซลล์) ไปยังศักย์น้ำต่ำ (บรรยากาศ) ผ่าน "ปากใบ (stomata)" ซึ่งเปิดปิดได้โดย "เซลล์คุม (guard cells)" การเปิดปากใบต้องอาศัยแรงดันเต่ง (turgor pressure) ภายในเซลล์คุมที่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะสิ่งแวดล้อม เช่น แสง ความชื้น และระดับคาร์บอนไดออกไซด์


ประเภทของการคายน้ำ
1. คายน้ำทางปากใบ (Stomatal transpiration) เกิดมากที่สุด ราว 8090% ของน้ำที่สูญเสียทั้งหมด ปากใบทำหน้าที่เป็น ประตูระบายไอน้ำ และเป็นช่องทางหลักของการแลกเปลี่ยนแก๊ส
2. คายน้ำทางผิวใบ (Cuticular transpiration) เกิดผ่านชั้นเคลือบผิวใบ (cuticle) ซึ่งปกติทำหน้าที่ลดการสูญเสียน้ำ แต่ในพืชที่มี cuticle บาง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมชื้น จะคายน้ำได้มากขึ้น
3. คายน้ำทางเลนทิเซล (Lenticular transpiration) เกิดที่ช่องเปิดเล็ก ๆ บนเปลือกลำต้น (lenticel) ซึ่งมีปริมาณน้อยมากแต่ยังมีความสำคัญในแง่การแลกเปลี่ยนแก๊สในส่วนที่ไม่มีใบ


ปัจจัยที่มีผลต่อการคายน้ำ
1. ปัจจัยภายนอก
- อุณหภูมิ: อุณหภูมิสูงช่วยเพิ่มอัตราการระเหย
- ความชื้นในอากาศ: เมื่อความชื้นต่ำ ความต่างศักย์น้ำระหว่างใบและบรรยากาศสูงขึ้น คายน้ำมากขึ้น
- ลม: การเคลื่อนไหวของอากาศช่วยพาไอน้ำออกจากผิวใบ เพิ่มการคายน้ำ
- แสง: กระตุ้นการเปิดของปากใบผ่านการกระตุ้นคลอโรพลาสต์และการเคลื่อนไอออนโพแทสเซียมในเซลล์คุม


2. ปัจจัยภายในพืช
- ความหนาและโครงสร้างของ cuticle
- จำนวนและการกระจายของปากใบ
- พื้นที่ผิวใบและโครงสร้างภายในใบ


บทบาทเชิงสรีรวิทยาและนิเวศวิทยา
การคายน้ำไม่ได้มีหน้าที่เพียงการระเหยน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการลำเลียง "แร่ธาตุและน้ำ" จากรากสู่ยอด อีกทั้งช่วย "ควบคุมอุณหภูมิของใบ" ป้องกันการร้อนเกิน (heat stress) ในสภาพอากาศร้อนจัด การคายน้ำยังมีผลต่อ "สมดุลพลังงานของพืช (energy balance)" และ "วงจรน้ำในระบบนิเวศ (hydrological cycle)" เนื่องจากพืชเป็นแหล่งปล่อยไอน้ำสำคัญสู่บรรยากาศโลก


ในแง่เกษตรกรรม การเข้าใจกลไกการคายน้ำช่วยให้สามารถ จัดการน้ำปุ๋ยแสงแดด ได้เหมาะสม เช่น การปลูกพืชในเรือนกระจกหรือระบบน้ำหยดที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น จะช่วยลดการสูญเสียน้ำโดยไม่กระทบต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง


กระบวนการคายน้ำของพืชเป็นตัวอย่างของความซับซ้อนทางชีวฟิสิกส์ที่พืชวิวัฒน์ขึ้นเพื่อรักษาสมดุลชีวิต เป็นกลไกที่ผสานระหว่างการลำเลียงน้ำ การแลกเปลี่ยนแก๊ส และการควบคุมอุณหภูมิอย่างมีประสิทธิภาพ ความเข้าใจเชิงลึกต่อกระบวนการนี้ไม่เพียงสำคัญในเชิงสรีรวิทยาพืชเท่านั้น แต่ยังมีผลโดยตรงต่อการบริหารจัดการน้ำในภาคเกษตร การปรับตัวต่อสภาพอากาศแปรปรวน และการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ที่ยั่งยืน


แหล่งข้อมูลอ้างอิง
1. Taiz, L., Zeiger, E., Møller, I. M., & Murphy, A. (2015). *Plant Physiology and Development*. Sinauer Associates.
2. Nobel, P. S. (2020). *Physicochemical and Environmental Plant Physiology*. Academic Press.
3. Salisbury, F. B., & Ross, C. W. (1992). *Plant Physiology*. Wadsworth Publishing.
4. ภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2565). เอกสารประกอบการเรียนสรีรวิทยาพืช.
5. กรมวิชาการเกษตร. (2566). รายงานวิจัยด้านสรีรวิทยาพืชและเทคโนโลยีการใช้น้ำในพืชเศรษฐกิจ.


#คายน้ำของพืช #ลำเลียงน้ำในพืช #ฟิสิกส์ของน้ำในพืช #ปากใบพืช #กลไกการคายน้ำ #แรงดึงน้ำไซเลม #สรีรวิทยาพืช #สมดุลน้ำในพืช #เกษตรวิทยาศาสตร์ #ดินน้ำแสงพืช


บทความที่เกี่ยวข้อง
อะมิโนบำรุงพืช “หัวใจของการสร้างคุณภาพผลผลิตให้ทุเรียน”
การจัดการต้นทุเรียนในแต่ละระยะ อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ "ช่วงใบแก่จนถึงผลใหญ่" ที่ถือเป็น หัวใจของการสร้างคุณภาพผลผลิต
3 ต.ค. 2025
สูตรปุ๋ย 8-16-16 ดีอย่างไรกับไม้ผล
ปุ๋ยสูตร 8-16-16 สัดส่วนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นบำรุง การออกดอก ติดผล และเลี้ยงผล ของไม้ผล โดยมีไนโตรเจนเพียงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ต้นแตกใบอ่อนมากเกินไป
29 ก.ย. 2025
ทำไมทุเรียนไม่ออกดอก? : วิเคราะห์สาเหตุและวิธีแก้ทีละขั้น
ทุเรียนไม่ติดดอกเกิดจากน้ำ-ธาตุอาหารไม่สมดุล ไนโตรเจนสูง รากเสียหรือแสงน้อย แนวทางแก้คือคุมการให้น้ำ ลดไนโตรเจน เสริม Ca–B–Zn เปิดพุ่มและดูแลราก
26 ก.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy